รถสามล้อเครื่องในประเทศศรีลังกาที่เรียกกันว่า “ตุ๊กตุ๊ก” เป็นยานพาหนะที่สะดวกและเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆคน ลอร์เรนผู้อาศัยในกรุงโคลอมโบเมืองหลวงตระหนักว่าพวกเขาคือทุ่งนาแห่งการประกาศข่าวประเสริฐ วันหนึ่งขณะโดยสารรถตุ๊กตุ๊ก เธอพบคนขับรถที่เป็นมิตรและยินดีพูดคุยเรื่องศาสนากับเธอ เธอบอกกับตัวเองว่าครั้งต่อไปเธอจะคุยเรื่องข่าวประเสริฐกับคนขับรถ
ในพระธรรมโรมเปาโลเริ่มต้นด้วยการพูดถึงตัวเองว่าเป็น “ผู้ซึ่งได้ทรงตั้งไว้ให้ประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้า” (รม.1:1) ในภาษากรีกคำว่า “ข่าวประเสริฐ” คือคำว่า evangelion ซึ่งหมายถึง “ข่าวดี” เปาโลต้องการบอกว่าเป้าหมายหลักของท่านคือการประกาศข่าวดีของพระเจ้า
ข่าวดีนี้คืออะไร พระธรรมโรม 1:3 พูดถึงข่าวประเสริฐของพระเจ้าว่า “เกี่ยวกับพระบุตรของพระองค์” ข่าวดีนี้คือพระเยซู! พระเจ้าพระองค์เองทรงเป็นผู้ที่ต้องการจะบอกกับโลกว่า พระเยซูเสด็จมาเพื่อช่วยเราจากความบาปและความตาย และพระองค์ทรงเลือกเราให้เป็นช่องทางในการสื่อสารของพระองค์ ช่างเป็นความจริงที่อ่อนน้อมถ่อมตนจริงๆ!
การแบ่งปันข่าวดีเป็นสิทธิพิเศษที่ผู้เชื่อในพระเยซูทุกคนได้รับ เรา “ได้รับพระคุณ” ให้ประกาศถึงความเชื่อนี้แก่ผู้อื่น (ข้อ 5-6) พระเจ้าทรงตั้งเราไว้ให้ประกาศข่าวประเสริฐอันน่าตื่นเต้นแก่ผู้ที่อยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะในรถตุ๊กตุ๊ก หรือที่ใดก็ตาม ขอให้เราเป็นเหมือนลอร์เรนที่มองหาโอกาสในชีวิตประจำวันของเรา เพื่อบอกผู้อื่นถึงข่าวดีซึ่งก็คือพระเยซู
ดีพิก้าแบกรับความรู้สึกผิดตลอดเวลาหลายปีในเรื่องที่เธอเคยปฏิบัติต่อน้องสาวตอนที่พวกเธอยังเด็ก ถึงแม้ว่าเธอจะขอโทษ และน้องก็ให้อภัยเธอแล้ว แต่เธอยังคงรู้สึกผิด
อิสยาห์ 6:1-5 บันทึกไว้ว่าอิสยาห์ได้เห็นนิมิตจากพระเจ้าและรู้สึกสำนึกในความผิดบาปของตน แต่เมื่อถ่านเพลิงจากแท่นบูชาสัมผัสที่ริมฝีปาก ท่านได้ยินคำว่า “กรรมชั่วของเจ้าก็ถูกยกเสีย” (ข้อ 7) ถ่านเพลิงจากแท่นบูชาในพระวิหารมักจะถูกรดด้วยเลือดของลูกแกะที่ถูกนำมาฆ่า ซึ่งเล็งถึงการสละพระชนม์ชีพของพระเยซู เมื่อพระเมษโปดกของพระเจ้าสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ความบาปและความผิดของเราก็ย้ายไปอยู่ที่พระองค์ (1 ปต.2:24)
เรามีความผิดเมื่อเราก่ออาชญากรรมหรือทำบาป ซึ่งสมควรจะถูกประณามและยังทำให้เกิดความรู้สึกผิดด้วย แม้คริสเตียนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังต้องต่อสู้กับความรู้สึกนี้เวลาที่เขาทำผิด
ความรู้สึกผิดจะมีประโยชน์เมื่อมันทำให้เราสำนึกและนำไปสู่การกลับใจ แต่การจมอยู่กับความรู้สึกผิดหลังจากที่ได้รับการยกโทษแล้วจะทำให้เราขาดอิสรภาพ ความจริงอันงดงามของพระกิตติคุณคือพระคริสต์ทรงชำระล้างความผิดบาปของเรา เราจึงสามารถเป็นไทจากภาระแห่งความรู้สึกผิดได้อย่างแท้จริง ให้เราชื่นชมยินดีที่โดยพระเยซู เราไม่ต้องรู้สึกผิดหรือจมอยู่ในความละอายอีกต่อไป เราได้รับการอภัยโทษแล้ว!